มาทำความรู้จักกับแบรนด์ JABRA

เป็นแบรนด์หูฟังจากเดนมาร์กที่มีสินค้าครอบคลุมหลายเซ็กเม้นต์ คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีเสียงมากว่า 150 ปี เพื่อให้การทำงานในชีวิตประจำวันมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมโปรเจ็กต์ การออกกำลังการ หรือการพรีเซ้นท์งานผ่านวิดีโอ

หูฟัง Jabra ทุกประเภททั้งแบบ True Wireless ครอบหู รวมถึงหูฟังใน Evolve ซี่รี่ย์ซึ่งเป็นหูฟังที่ใช้ในการประชุมออนไลน์ มีเทคโนโลยี Jabra PeakStop สามารถป้องกันหูของผู้ใช้ได้จากเสียงที่ดังเกินไป

ในยุคดิจิทัลไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์ที่ฮิตในชีวิตประจำวัน คือ หูฟัง ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบไร้สาย ครอบหู หรือหูฟังสำหรับการประชุมออนไลน์ ถ้าฟังติดต่อกันนานๆ เกินไปหรือเสียงดังมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอันตรายกับแก้วหูและการได้ยินของเราได้

ประวัติความเป็นมา

Jabra เป็นแบรนด์หูฟังมีชื่อติดตลาดมาอย่างยาวนาน ก่อตั้งขึ้นในปี 1993 โดย Brean Murray และ Randy Granovetter เป็นหูฟังที่นอกจากเรื่องเสียงแล้ว ยังมีจุดแข็งอยู่ที่ไมโครโฟนที่พัฒนาจนให้การสื่อสารที่ชัดเจน แต่เมืองไทยผู้บริโภคจะคุ้นเคยจากภาพจำของฟูฟัง Small Talk ที่เอาไว้ใช้สนทนาคู่กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสมัยที่เทคโนโลยีสื่อสารยังเป็น 3G และ 4G

จุดเด่นของแบรนด์ JABRA

  1. มีการสวมใส่ที่สบาย
  2. คุณภาพเสียงคมชัด ระดับพรีเมี่ยม
  3. เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนมีความล้ำหน้า
  4. มีน้ำหนักเบา ทนทาน ใส่สบายใช้งานได้หลายชั่วโมง
  5. รองรับการทำงานร่วมกับ UC และแอปประชุมออนไลน์

หูฟัง JABRA แตกต่างจากแบรน์อื่นอย่างไร

เป็นแบรนด์ที่เน้นคุณภาพเสียง และการสื่อสารระดับมืออาชีพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงาน การประชุม และการใช้ในชีวิตประจำวัน เสียงคมชัด ไม่มีหลุดแม้ในที่เสียงดัง มีความทนทาน เหมาะสำหรับ พนักงานออฟฟิศ อาจารย์ คนเดินทางบ่อยๆ หรือผู้คนทั่วไป

กลุ่มสินค้าของแบรนด์ JABRA

  • หูฟังโมโน
  • หูฟัง CC&O
  • หูฟังประชุมออนไลน์
  • หูฟังคอลเซนเตอร์
  • ลำโพงประชุมไร้สาย
  • ลำโพงประชุม
  • ลำโพง CC&O

หูฟังของแบรนด์มีทั้งหมดกี่ประเภท

มีทั้งหมด 6 ประเภท คือ

1. หูฟังแบบ True Wireless (TWS) เป็นหูฟังที่ไม่มีสายเชื่อมใดๆ ระหว่างหูทั้งซ้าย-ขวา จะทำงานแบบแยกอิสระ โดยเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth

2. หูฟังแบบ Bluetooth Mono (ข้างเดียว) ใช้สำหรับการสนทนาโดยเฉพาะ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อฟังเพลงแบบเต็มรูปแบบเหมือนหูฟังสองข้าง

3. หูฟังแบบ On-Ear / Over-Ear (ครอบหู) เป็นหูฟังที่ครอบได้ทั้งใบหู ใส่สบาย มีทั้งแบบไร้สาย และแบบมีสาย เหมาะสำหรับฟังเพลงแบบจริงจัง

4. หูฟังแบบคล้องคอ (Neckband Wireless) เป็นหูฟังไร้สายที่มีสายเชื่อมระหว่างหูฟังทั้ง 2 ข้าง โดยมีแถบหรือสายคล้องไว้รอบคอ หูฟังสามารถถอดเสียบเข้าหูได้ง่าย

5. หูฟังสำหรับงานธุรกิจ / องค์กร (UC Office Headsets) เป็นหูฟังที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับใช้ในสำนักงานและการสื่อสารทางธุรกิจ

6. หูฟังมีสายแบบ 3.5 / USB (ทั่วไป) เป็นหูฟังที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ โดยแบ่งออกแบ่ง 2 ประเภทหลักๆ คือ แจ็ค 3.5 มม. และ usb-c

สินค้าที่ฮิตที่สุดของแบรนด์

1. หูฟังแบบทั่วไป

เป็นหูฟังที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เหมาะสำหรับฟังเพลง ดูหนัง คุยโทรศัพท์ เล่นเกมส์ เป็นต้น

จุดเด่น

  • มีความทนทาน
  • รองรับแอปได้ดี
  • มีคุณภาพเสียงสูง

2. หูฟังแบบไร้สาย

เป็นหูฟังที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมส์ ออกกำลังกาย เป็นต้น

จุดเด่น

  • ตัดเสียงการรบกวนได้ดี
  • ดีไซน์ใช้งานได้ทั้งวันไม่เมื่อยหู
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์

3. หูฟัง แบบ True Wireless

เป็นหูฟังที่ออกแบบบมาเพื่อรองรับสัญญาณบลูทูธได้หลากหลาย ใช้งานได้ง่าย และมีความสามารถในการกันน้ำกันเหงื่อได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับออกกำลังกาย คุยโทรศัพท์

จุดเด่น

  • ตัดเสียงการรบกวนได้ดี
  • ไมโครโฟนคุณภาพสูง
  • รองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์

4. หูฟัง แบบ Bluetooth

เป็นหูฟังแบบ Bluetooth หรือหูฟังสำหรับใช้งานเป็น Small Talk ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นไมโครโฟนที่ได้รับเสียงอย่างคมชัด เหมาะสำหรับคุยโทรทัพศ์ขณะขับรถ ฟังเพลง เป็นต้น

จุดเด่น

  • มีความทนทาน
  • แบตอึดใช้งานได้ทั้งวัน
  • มีคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม

หูฟังของแบรนด์ Jabra รุ่นไหนเหมาะกับใครมากที่สุด

หูฟัง Jabra ทั้ง 3 รุ่น – Evolve 2 65, Evolve2 75 และ Engage 65
ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพ โดยมีจุดร่วมคือ เสียงสนทนาชัดเจน, ตัดเสียงรบกวนได้ดี

  • Evolve 2 65 เหมาะสำหรับงานประชุมทั่วไป ใช้งานง่ายผ่าน Bluetooth
  • Evolve 2 75 เน้นคุณภาพสูง ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเยี่ยม เหมาะกับสภาพแวดล้อมเสียงดัง
  • Engage 65 ใช้ระบบ DECT เชื่อมต่อได้ไกล เหมาะกับคอลเซ็นเตอร์หรือพนักงานที่ต้องคุยสายต่อเนื่อง

หูฟัง Jabra ทั้ง 2 รุ่น – Engage 50 II, รุ่น Biz 2400 II
ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นใช้งานอย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะคอลเซ็นเตอร์หรือฝ่ายบริการลูกค้า

  • Engage 50 II หูฟังมีสาย USB เสียงคมชัด 3 ไมค์ ตัดเสียงรบกวนดีเยี่ยม มีฟีเจอร์อัจฉริยะ เหมาะกับคอลเซ็นเตอร์ยุคใหม่
  • Biz 2400 II หูฟังมีสายทนทานสูง ไมค์ตัดเสียงดี ใช้งานต่อเนื่องได้หลายปี เหมาะกับงานบริการที่ใช้งานหนัก

หูฟัง Jabra ทั้ง 3 รุ่น – Elite 5, Elite 4, Elite 3
ออกแบบมาสำหรับใช้งานทั่วไป หูฟังไร้สายใส่สบาย เสียงดี ตัดเสียงรบกวน ใช้งานได้หลากหลาย

  • Elite 5 รุ่นบน ฟีเจอร์ครบ เสียงดี ตัดเสียงรบกวน (ANC) มี multipoint เหมาะกับคนที่ใช้ทั้งทำงานและฟังเพลงจริงจัง
  • Elite 4 รุ่นกลาง มี ANC และ multipoint ใช้งานได้หลากหลาย ราคากำลังดี เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป
  • Elite 3 รุ่นเริ่มต้น ไม่มี ANC แต่เสียงดี ใช้งานพื้นฐาน ฟังเพลง-โทรศัพท์ ราคาคุ้มค่า

หูฟัง Jabra ทั้ง 2 รุ่น – รุ่น Elite 4 Active, รุ่น Elite 7 Active
ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย คุณภาพเสียง ใช้งานหลากหลาย กันน้ำ กันเหงื่อ สามารถใช้ข้างเดียวได้

  • Elite 7 Active ฟีเจอร์ครบ เสียงดีเยี่ยม เหมาะกับทั้งเล่นกีฬาและใช้งานประจำวัน
  • Elite 4 Active คุ้มราคา ฟีเจอร์เพียงพอสำหรับสายออกกำลังกายทั่วไป

หูฟัง Jabra ทั้ง 2 รุ่น – Jabra Talk 65, รุ่น Talk 45
ออกแบบมาเพื่อการสนทนาในออฟฟิศหรือระหว่างเดินทางโดยเฉพาะ ตัดเสียงรบกวนขั้นสูง สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์

  • Talk 65 ไมค์คู่ เสียงชัด ทน แบตอึด เหมาะกับการใช้งานหนัก
  • Talk 45 ขนาดเล็ก พกง่าย เสียงดี เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

กลุ่ม Evolve 2 + อุปกรณ์เสริมประชุม (Jabra PanaCast, Speak Series)
ออกแบบมาเพื่อการประชุมและการทำงานแบบมืออาชีพ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนขั้นสูง ใส่สบาย ใช้ได้ทั้งวัน

  • Evolve2 หูฟังไร้สายประชุมเสียงชัด ใส่สบาย
  • PanaCast กล้องประชุมมุมกว้าง เห็นครบทุกคน
  • Speak ลำโพงสนทนาเสียงดี ใช้ได้ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม

ทำไมต้องเลือกแบรนด์นี้

  • ควบคุมการทำงานได้อย่างละเอียด
  • มีฟีเจอร์ชั้นนำเฉพาะทางของแบรนด์
  • มีคุณภาพเสียงที่มีความเป็นมืออาชีพ
  • มีความทนทาน ใช้งานได้นาน 7-35 ชั่วโมง
  • มีการรับประกัน 1-2 ปี และการบริการหลังการขายที่ดี
  • สามารถรองรับ Microsoft Teams, Zoom, Google Meet ได้เป็นอย่างดี