
มาตรฐาน JIS
มาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ JIS T8101
รองเท้าเซฟตี้ JIS T8101 เป็นมาตรฐานรองเท้าที่ปกป้องนิ้วเท้าของผู้สวมใส่เป็นหลัก มีคุณสมบัติในการป้องกันเท้าของผู้ปฏิบัติงานจากของหนักตกใส่เล็บและนิ้วเท้า ด้วยเหตุนี้ส่วนหลังของรองเท้าจะเป็นหนังวัวหรือยางทั้งชิ้น ส่วนปลายเท้าและพื้นรองเท้าทำจากแผ่นเหล็ก นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน JIS ยังเป็นมาตรฐานที่เข้มงวดและความปลอดภัยสูงกว่ารองเท้าเซฟตี้ประเภทผ้าใบมาตรฐาน JSAA เช่น วัสดุที่มีความทนทานมากกว่า เป็นต้น
มาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ JIS T8103
รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิต JIS T8103 เป็นมาตรฐานที่แบ่งออกเป็นรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตชนิดทั่วไป และชนิดพิเศษ และรองเท้าตัวนำ โดยแต่ละชนิดมีค่าความต้านทานไฟฟ้าจะขึ้นอยู่สภาพแวดล้อมในการทํางาน
วิธีการทดสอบประสิทธิภาพตามมาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ JIS T8101, JIS T8103 และรองเท้าเซฟตี้ประเภทผ้าใบ JSAA
การทดสอบความทนแรงกระแทกของหัวรองเท้า (Impact Efficiency Test)
วิธีทดสอบ ยึดหัวรองเท้าเข้ากับเครื่องทดสอบแรงกระแทก และใช้อุปกรณ์กระแทกที่ทำด้วยเหล็กกล้ามวล (20 ± 0.2) กิโลกรัม ตกใส่ในแนวดิ่งตามความสูงที่ให้พลังงานกระแทกตามต้องการ
ความต้านทานแรงกระแทกหรือแรงบีบวัดจากการยุบตัวที่ทำให้มีช่องว่างระหว่างขอบหัวรองเท้าด้านบนกับพื้นรองเท้าลดลงไม่เกินค่าที่กำหนดไว้
การทดสอบความทนแรงกดทับของหัวรองเท้า (Compression Efficiency Test)
วิธีทดสอบ วางชิ้นทดสอบไว้บนฐานจับเข้ากับเครื่องทดสอบแรงกดและควบคุมอัตราเร็วที่ (5 ± 2) มิลลิเมตรต่อนาที
การทดสอบความติดแน่นระหว่างพื้นรองเท้ากับหนังส่วนบน (Separation Efficiency Test)
วิธีทดสอบ โดยยึดชิ้นทดสอบเข้ากับเครื่องทดสอบแรงดึงด้วยอัตราเร็ว (100 ± 20) มิลลิเมตรต่อนาที และบันทึกค่าแรงดึงตลอดการดึงชิ้นทดสอบจนกระทั่งพื้นรองเท้าและหนังส่วนบนแยกออกจากกัน ค่าแรงดึงการทดสอบต่อความกว้างชิ้นทดสอบเป็นนิวตันต่อมิลลิเมตร
การทดสอบการดูดซับแรงกระแทกของพื้นรองเท้า (Shock Absorbing Efficiency Test)
วิธีทดสอบ วางชิ้นทดสอบบนแผ่นเหล็กกล้าที่มีความหนา (10 ± 1) มิลลิเมตร เข้ากับเครื่องทดสอบแรงกดและค่อยๆ ออกแรงกดด้วยอัตราเร็ว (10 ± 3) มิลลิเมตรต่อนาที
การทดสอบความต้านทานการลื่นของพื้นรองเท้า (Anti Slip Efficiency Test)
วิธีทดสอบ โดยวางชิ้นทดสอบบนพื้นสเตนเลสที่ราดด้วยสารกลีเซอรีน เพื่อวัดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานแบบไดนามิกให้กับพื้นรองเท้าเซฟตี้ตามมาตรฐาน JIS T8101 (ปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ. 2020)
พื้นรองเท้า Class 1 หรือ F1 มีค่าสัมประสิทธิ์ของแรงเสียดทานมากกว่า 0.20 ไม่เกิน 0.30
พื้นรองเท้า Class 2 หรือ F2 มีค่าสัมประสิทธิ์ของแรงเสียดทานเท่ากับหรือมากกว่า 0.30
การทดสอบความต้านทานการเจาะทะลุ (Puncture Resistance Test)
วิธีทดสอบ วางชิ้นทดสอบบนแผ่นฐานของเครื่องทดสอบแรงแทงทะลุ กดตะปูเหล็กกล้าปลายตัดด้วยอัตราเร็ว (10 ± 3) มิลลิเมตรต่อนาที จนกระทั่งตะปูเหล็กกล้าแทงทะลุชิ้นทดสอบอย่างสมบูรณ์และบันทึกค่าแรงสูงสุดที่ใช้
การทดสอบความต้านทานแรงกระแทกของตัวป้องกันหลังเท้า
วิธีทดสอบ วางชิ้นทดสอบเข้ากับเครื่องทดสอบแรงกระแทกด้วยการนำอุปกรณ์กระแทกทำด้วยเหล็กมวล 20 กิโลกรัม ที่ตกอย่างอิสระในแนวดิ่งจากความสูงที่ให้พลังงานกระแทก 100J ในการทดสอบครั้งสุดท้ายทำให้รองเท้าเกิดการเสียรูปทรงจะต้องมีขนาดความหนารวมกับดินน้ำมันทั้งหมดได้ขนาด 25 มิลลิเมตร ขึ้นไป
การทดสอบความต้านทานไฟฟ้าสถิตตามมาตรฐาน JIS T8103
วิธีทดสอบ โดยวางชิ้นทดสอบบนเคาน์เตอร์เครื่องวัดค่าความต้านทานไฟฟ้า และนำอิเล็กโทรดสัมผัสกับพื้นรองเท้าด้านในและด้านนอกของพื้นรองเท้า โดยรับน้ำหนักคงที่และใช้แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง (100 ± 5) โวลต์ ทำการวัดภายใต้อุณหภูมิ 23 ± 2°C หรือ 0 ± 20°C และความชื้นสัมพัทธ์ที่กำหนด
ความสามารถในการป้องกันไฟฟ้าสถิตของรองเท้าตามมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น JIS T8103
การกำหนดค่าความต้านทานไฟฟ้า (R) ของรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตด้วยวิธีทดสอบที่ระบุในมาตรฐาน JIS T8103 จะทำการวัดความต้านทานเป็นเวลาทั้ง 15 วินาทีและ 1 นาที แล้วคำนวณค่าความต้านทานไฟฟ้าที่ได้ต้องเป็นไปตามค่ามาตรฐาน ดังนี้
ค่าความต้านทานของรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิต
หน่วยไฟฟ้าโอห์ม (Ω)
ประเภทการป้องกัน | ชนิด | ความต้านทานไฟฟ้า (R) | สัญลักษณ์ | |
อุณหภูมิการวัด 23±2°C | อุณหภูมิการวัด 0±20 °C | |||
รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิต | ทั่วไป | 1.0×105≦R≦1.0×108 | 1.0×105≦R≦1.0×109 | ED |
พิเศษ | 1.0×105≦R≦1.0×107 | 1.0×105≦R≦1.0×108 | EDX | |
รองเท้าตัวนำ | – | R<1.0x105 | R<1.0x105 | EC |
หมายเหตุ 1
เมื่อทำการวัดความต้านทานไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 23 ± 2°C และความชื้นสัมพัทธ์ที่ใช้วัดสำหรับแต่ละประเภทมีสภาพแวดล้อมมีดังนี้
สภาพแวดล้อมหมวดที่ 1 ความชื้นสัมพัทธ์ (12±3)% (สัญลักษณ์ C1)
สภาพแวดล้อมหมวดที่ 2 ความชื้นสัมพัทธ์ (25±3)% (สัญลักษณ์ C2)
สภาพแวดล้อมหมวดที่ 3 ความชื้นสัมพัทธ์ (50±5)% (สัญลักษณ์ C3)
ทั้งนี้ การทดสอบที่อุณหภูมิ 0±20°C ยังไม่ได้กำหนดความชื้นสัมพัทธ์ (ไม่มีการควบแน่น)
หมายเหตุ 2
ขีดจำกัดล่างของความต้านทานของรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิต (1.0×105Ω) คือ ข้อกำหนดในการป้องกันไฟฟ้าช็อตร่างกายมนุษย์เมื่อสัมผัสกับทางเดินที่มีกระแสไฟฟ้าแรงต่ำ (AC น้อยกว่า 300V)
หมายเหตุ 3
ขีดจำกัดบนของความต้านทานไฟฟ้าที่อุณหภูมิ 0 ± 20°C มีค่ามากกว่าขีดจำกัดที่อุณหภูมิ 23 ± 2°C เนื่องจากความต้านทานไฟฟ้าของวัสดุพื้นรองเท้าชั้นนอกโดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิลดลง และยิ่งอุณหภูมิของก๊าซและไอน้ำต่ำเท่าไรก็ยิ่งจุดไฟได้ยากขึ้นเท่านั้น จึงไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดอัคคีภัยหรือการระเบิด
รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตชนิดทั่วไป
รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้าภายใต้อุณหภูมิทั้ง 2 สภาวะที่กำหนดในตารางด้านบนของชนิดทั่วไป ซึ่งเป็นรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับวัตถุประสงค์ทั่วไปและนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตชนิดพิเศษ
รองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตที่มีค่าความต้านทานไฟฟ้าภายใต้สภาวะอุณหภูมิทั้ง 2 สภาวะที่กำหนดในตารางด้านบนของชนิดพิเศษ และทาพื้นรองเท้าด้วยก๊าซไวไฟที่จุดติดง่าย (ไฮโดรเจน อะเซทิลีน คาร์บอนไดซัลไฟด์) และทำการตรวจสอบค่าความต้านทานไฟฟ้าต้องได้ผลตามตารางข้างต้น ซึ่งเป็นรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับการป้องกันการติดไฟและป้องกันการระเบิด
การจำแนกประเภทสภาพแวดล้อม
หมวดหมู่ของประเภทรองเท้าป้องกันไฟฟ้าสถิตที่ผ่านทดสอบในสภาพแวดล้อมการใช้งานที่คาดไว้ (อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์)
จำแนกตามประสิทธิภาพในการป้องกัน JIS T8103 | วัสดุที่ใช้ผลิต | วัสดุที่ใช้ทำแผ่นรองเท้าและพื้นรองเท้า | หัวรองเท้า | สัญลักษณ์ |
รองเท้านิรภัย | หนังแท้ ยางธรรมชาติหรือวัสดุสังเคราะห์พอลิเมอร์ | JIS T8101 | เป็นไปได้ | P |
รองเท้าป้องกัน | หนังเทียม พลาสติก ผ้าใบ ฯลฯ | บางส่วนหรือทั้งหมด ไม่อยู่ภายใต้มาตรฐาน JIS T8101 | เป็นไปได้ | O |
รองเท้าทำงาน | ไม่มี | W |
ชนิดของวัสดุที่ใช้ผลิต (สัญลักษณ์)
Class I (CI)
รองเท้าทำจากหนังและวัสดุอื่น
Class II (CII)
รองเท้าทำจากยางธรรมชาติหรือวัสดุสังเคราะห์พอลิเมอร์
ประเภทรองเท้านิรภัยแบ่งตามลักษณะการใช้งาน (สัญลักษณ์)
งานหนักพิเศษ (U)
รองเท้านิรภัยสามารถป้องกันนิ้วเท้าจากแรงกระแทก 200J และทนต่อแรงบีบอัด 15kN
รองเท้านิรภัยสำหรับงานหนัก (H)
รองเท้านิรภัยสามารถป้องกันนิ้วเท้าจากแรงกระแทก 100J และทนต่อแรงบีบอัด 15kN
รองเท้านิรภัยสำหรับงานทั่วไป (S)
รองเท้านิรภัยสามารถป้องกันนิ้วเท้าจากแรงกระแทก 70J และทนต่อแรงบีบอัด 10kN
รองเท้านิรภัยสำหรับงานเบา (L)
รองเท้านิรภัยสามารถป้องกันนิ้วเท้าจากแรงกระแทก 30J และทนต่อแรงบีบอัด 4.5kN
คุณสมบัติเพิ่มเติมของรองเท้านิรภัยมาตรฐานญี่ปุ่น JIS (สัญลักษณ์)
ความต้านทานการเจาะทะลุ (P)
ทดสอบด้วยการใช้ตะปูเหล็กแทงทะลุด้วยแรงกระแทก 1,100N ขึ้นไป
การดูดซับแรงกระแทกของส้นเท้า (E)
ส้นรองเท้าสามารถดูดซับแรงกระแทกได้ 20J
ความต้านทานแรงกระแทกของตัวป้องกันหลังเท้า (M)
ความสามารถในการป้องกันแรงกระแทกที่หลังเท้า โดยการทดสอบครั้งสุดท้ายที่ทำให้รองเท้าเกิดการเสียรูปทรงจะต้องมีขนาดความหนาพื้นรองเท้ารวมกับดินน้ำมันทั้งหมดได้ขนาด 25 มม. ขึ้นไป
ป้องกันการลื่น (F)
พื้นรองเท้ามีความต้านทานการลื่นไถล ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1 พื้นรองเท้ามีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานแบบไดนามิกเท่ากับ 0.20 และไม่เกิน 0.30 (F1)
ประเภทที่ 2 พื้นรองเท้ามีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานแบบไดนามิกไม่ต่ำกว่า 0.30 (F2)
กันน้ำ (W)
ความสามารถในการกันน้ำของรองเท้านิรภัยประเภท Class I (ทำจากหนัง) เท่านั้น
ความต้านทานการตัด (C)
ความสามารถในการต้านทานแรงตัดจากเลื่อยยนต์
ฉนวนไฟฟ้า (I)
เป็นการแสดงระดับของค่าความต้านทานฉนวนไฟฟ้าของรองเท้านิรภัย Class II (ทำจากยาง) เท่านั้น และหัวรองเท้าต้องไม่ทำจากเหล็ก ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ประเภทที่ 1 สำหรับวงจรไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า AC ไม่น้อยกว่า 300V และไม่เกิน 600V (I – 600)
ประเภทที่ 2 สำหรับวงจรไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า AC ไม่น้อยกว่า 600V และไม่เกิน 3500V (I – 3500)
ประเภทที่ 3 สำหรับวงจรไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้า AC ไม่น้อยกว่า 3500V และไม่เกิน 7000V (I – 7000)
รองเท้ามีฉนวนป้องกันความร้อน (HI)
แสดงถึงระดับการนำความร้อนสู่ด้านในของพื้นรองเท้านิรภัยกับอุณหภูมิสูง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ หมวดที่ 1 สำหรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 22 ℃ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 นาที และไม่เกิน 30 นาที
(HI1) และหมวดที่ 2 สำหรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 22 ℃ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที (HI2)
รองเท้ามีฉนวนป้องกันความเย็น (CI)
แสดงถึงระดับการนำความร้อนสู่ด้านในของพื้นรองเท้านิรภัยกับอุณหภูมิต่ำ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 หมวด คือ หมวดที่ 1 สำหรับอุณหภูมิลดลง 10 ℃ เป็นเวลาอย่างน้อย 20 นาที และไม่เกิน 30 นาที
(CI1) และหมวดที่ 2 สำหรับอุณหภูมิลดลง 10 ℃ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที (CI2)
ความต้านทานการสัมผัสความร้อนสูงของพื้นรองเท้าชั้นนอก (H)
พื้นรองเท้าชั้นนอกมีความทนทานต่อการสัมผัสความร้อน 300 ℃ เป็นเวลานาน 1 นาที
ความต้านทานน้ำมันเชื้อเพลิงที่พื้นรองเท้าชั้นนอก (BO)
พื้นรองเท้าไม่เกิดการบวมและการหดตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำมันและเชื้อเพลิง
ความต้านทานน้ำมันเชื้อเพลิงของหลังเท้า (UO)
ฝาครอบป้องกันหลังเท้าไม่เกิดการบวมและการหดตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำมันและเชื้อเพลิง
*คุณสมบัติเพิ่มเติมเหล่านี้จะระบุแทนด้วยสัญลักษณ์หรือตัวอักษรไว้ที่กล่องบรรจุภัณฑ์หรือด้านในรองเท้านิรภัย
ตัวอย่างที่ 1 รองเท้านิรภัยที่ระบุสัญลักษณ์หรือตัวอักษร S คือ รองเท้านิรภัยแบบหนังสำหรับงานทั่วไป
ตัวอย่างที่ 2 รองเท้านิรภัยที่ระบุสัญลักษณ์หรือตัวอักษร SP คือ รองเท้านิรภัยแบบหนังสำหรับงานทั่วไปและมีแผ่นป้องกันการเจาะทะลุ เพื่อป้องกันฝ่าเท้าเหยียบเศษวัสดุหรือของมีคม
มาตรฐาน JSAA
มาตรฐาน JSAA เป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับรองเท้านิรภัยประเภทผ้าใบซึ่งจะรองรับการใช้งาน 2 ประเภท คือ Class A สำหรับงานทั่วไป และ Class B สำหรับงานเบา ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเทียบเท่ากับรองเท้านิรภัยมาตรฐาน JIS T8101 ใน Class S และ Class L
ข้อกำหนดทางเทคนิคและระบบการรับรองของรองเท้านิรภัยประเภทผ้าใบตามมาตรฐานความปลอดภัย JSAA จะมีการติดฉลากแสดงเครื่องหมายเป็นแท็กหรือป้ายข้อมูลรับรองมาตรฐานที่กำหนดขึ้นโดยองค์กรภาคเอกชนของประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ บนกล่องบรรจุภัณฑ์แต่ละกล่องจะมีเครื่องหมายรับรองระบุไว้ด้านใดด้านหนึ่ง และรองเท้านิรภัยประเภทผ้าใบที่ผ่านการรับรอง งานทั่วไป : Class A และงานเบา : Class B ซึ่งจะระบุเครื่องหมายไว้ใต้ลิ้นของตัวรองเท้าเช่นกัน
ตัวอย่าง เครื่องหมายและฉลากบนภาชนะบรรจุรองเท้าเซฟ และ รองเท้าเซฟตี้ประเภทผ้าใบที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน JSAA